วันพฤหัสบดี

สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน เป็นยังไงกันบ้างครับ ช่วงนี้อากาศค่อนข้างร้อน ยังไงก็ดูแลสุขภาพร่างกายกันด้วยนะครับ เมื่อวานผมก็เอาเรื่องราวของชาวบ้าน มาเล่าสู่กันฟังแล้ว เมื่อวานเป็นวันดีอีกวันนึงดารา นักร้อง คนเดินดินบนโลกบูดๆ เบี้ยวนี้ก็ถือฤกษ์กัน เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ อาจเป็นเพราะตัวเลขมันลงท้ายด้วย 9 9 9 หมดมั้งครับคนไทยชอบเลข 9 กัน เอ้อ.......... เอาล่ะครับไหนๆก็เข้ามาอ่านบล็อกผมละ ยังไงวันนี้ก็ยังคงความสดใหม่เหมือนเดิมนะครับ เขียนทุกวัน ไม่มีคนอ่าน ไม่มีคน comment ก็ไม่เป็นไร ยังๆก็ขอให้ได้มาเขียน เผื่อใครในที่นี้จะได้แอบเอาไปอ่านเล่นๆกัน 5555 ผมคงเพี้ยนไปแล้วครับ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า วันนี้ 10 กันยายน หลายๆคนอาจยังจะยังไม่รู้ไม่รู้นะครับว่ามันก็เป็นวันพิเศษอีกวันนึงนะ วันนี้องค์การอนามัยโลกเค้า จัดให้เป็นวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก

ทุกวันที่ 10 กันยายน ของทุกปี องค์การอนามัยโลกกำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันสำคัญคือ วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก (World Suicide Prevention Day) โดยประกาศเป็นครั้งแรกเมื่อ ปี ค.ศ. 2003 (ซึ่งก็ตรงกับปี พ.ศ. 2546 ของไทย)

ทางองค์การ อนามัยโลกคาดว่าในปีหนึ่งจะมีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน เมื่อคิดเฉลี่ยต่อเวลาจะพบว่ามีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ 1 คน ทุก 40 วินาที และการฆ่าตัวตายยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของพ่อแม่พี่น้องสามีภรรยาและเพื่อนๆ ของผู้ตายอีกประมาณ 5-10 ล้านคน ตลอดจนมีผลมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ทางองค์การอนามัยโลกพบว่า การฆ่าตัวตายติด 10 อันดับแรกของสาเหตุการตายของประชากรโลก และติดอันดับที่ 3 ของสาเหตุการตายสำหรับประชากรวัย 15-35 ปี ผู้ชายฆ่าตัวตายสำเร็จมากกว่าผู้หญิงถึง 3 เท่า (ยกเว้นในประเทศจีน)

องค์การอนามัยโลกประมาณว่า ผู้ทำร้ายตนเองมีจำนวนมากกว่าผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จประมาณ 10-20 เท่า จากการศึกษาพบว่าผู้ทำร้ายตนเองจะมีโอกาสทำซ้ำและประสบความสำเร็จได้ โดยมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายสำเร็จในระยะหนึ่งปีหลังการทำร้ายตนเองครั้ง แรกเพิ่มขึ้นเป็น 100 เท่าเมื่อเทียบกับประชากรทั่วไป และร้อยละ 10 ของผู้ทำร้ายตนเอง จะจบชีวิตลงด้วยการฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา

การฆ่าตัวตายหรือพยายามฆ่าตัวตาย ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย แต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายประมาณ 4,500-5,000 คน ซึ่งมากกว่าการฆ่ากันตาย ที่มีประมาณ ปีละ 3,000-3,800 ราย (สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์, 2546) และถ้านับจำนวนผู้ที่ทำร้านตนเองทั้งหมด ทั้งที่เสียชีวิตและไม่เสียชีวิตจะพบว่ามีจำนวนรวมสูงถึง 25,000-27,000 รายต่อปี (อภิชัย มงคล และคณะ, 2546) ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติอย่างมากครับ

เป็นข้อมุลดีๆ มาฝากกันนะครับ หวังว่าเพื่อนคงได้ความรู้กันไปนะ ยังไงก็ดูแลรักษาเนื้อ รักษาตัวกันให้ดีๆนะครับ เพราะเดี๋ยวนี้โลกที่เราอยู่มันน่ากลัวมากครับ มีสิ่งอันตรายๆต่างๆที่จะมาทำร้ายเราเยอะครับ พรุ่งนี้มาเจอกันใหม่นะครับ ช่วงนี้ผมจะสลับปรับเปลี่ยนแนวการเขียนบ้างละกัน สำหรับเพ่อนๆ ที่ติดตามกันมาตั้งแต่ต้น อย่างงนะครับ ที่ผมไม่ได้เขียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ผมอยากให้เพื่อนๆได้อรรถรสด้านอื่นกันบ้างนะครับ จะได้ไม่เบื่อกัน สำหรับวันนี้ต้องขอตัวไปก่อนแล้วครับ โชคดีมีเงินใช้ทุกคนครับ -_- สวัสดีครับ

ป.ล มาเที่ยวลำปางกันบ้างเด้อ.......ลำปางน่าอยู่... เมืองไก่ขาเดียว....รถม้าแปลกเตียว....ไปเตียวกาดกองต้ามาเจ๊า....................

0 Comments:

Post a Comment