วันศุกร์

สพานลำปาง ต่อจ้า

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนเมื่อวาน ไม่ได้เข้ามาเขียนบล็อก พอดีผมมัวแต่เข้าไปอ่านบอร์ด การทำเว็บไซด์มาน่ะครับ เวลาเพื่อนๆค้นหาบล็อกผมในหน้า google จาได้หากันง่ายๆหน่อย เผื่อใครที่จำชื่อบล็อกไม่ได้ครับ เอาเป็นว่าถ้าหาง่ายๆก็พิม คำว่า traradceramiclampang ละกันครับจาได้เข้ามาอ่านบทความผมง่ายๆหน่อยครับ ผมก็ยังวนเวียนอยู่แถวๆ สพานที่ลำปาง เมืองแห่งเซรามิกและชามกาไก่ วันก่อนเล่าค้างอยู่ที่ สพานพัฒนาภาคเหนือ ที่ 1 ลำปาง ใช่มั้ยครับ (ถ้าใครที่เข้ามาอ่านใหม่เลื่อนลงไปอ่านบทความด้านล่างได้นะครับ เพราะผมเขียนมาตั้งแต่หัวสพานรัษฎาลำปาง มาทางทิศตะวันตกไล่ไปเรื่อยๆครับ เพราะลำปางมีสพานเยอะ จริงๆครับ) เอาเป็นว่าเรื่องราวเกี่ยวกับสพานภายในจังหวัดลำปางยังไม่จบนะครับติดตามไปเรื่อยๆละกัน ผมจะซอกแซก เปลี่ยนโลเคชั่นไปเรื่อยๆครับ สายน้ำไม่มีวันหยุดนิ่งนะครับ ถ้าเปรียบกับชีวิตของคนเราแล้วชีวิตเราก็ยังคงต้องต่อสู้ดิ้นรนกันไปนะครับ ยังไงก็สู้ต่อไปละกัน เป็นกำลังใจให้ครับ ลำปางยังมีอะไรสวยๆอีกเยอะนะครับ ผมจาไปเก็บมุมสวยๆในลำปางให้เพื่อนๆได้ชมกันต่อไปเรื่อยๆ นะครับอย่าพึ่งหนีไปไหนละกัน รับรองครับเพื่อนๆจาได้เห็นมุมมองใหม่ๆ จากความรู้สึกและประสบการณ์ที่ผมเคยผ่าน เคยพบมาจาก สถานที่นั้นๆ เล่าผ่านมุมมองของผม ให้เพื่อน ได้ซึมซับบรรยากาศ เมืองเหนือ เมืองลำปาง จังหวัดทางภาคเหนือที่มีการทำเซรามิกที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ชามไก่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติมากครับ ใครที่มาลำปางจากกรุงเทพฯ ก็จะเห็นชามกาไก่ยักษ์อยู่ ข้างทางก่อนเข้าเมืองเลย นั่นคือ สัญลักษณ์อีกสัญลักษณืหนึ่งของลำปางครับ แต่ยังมีเด็ดอีกครับเดี๋ยวจาเอามาฝากกันในโอกาสตต่อไปครับ เอาล่ะครับ ไปต่อกันเลย Let go!!!!!.......................................................................................


ตอนนี้ผมอยูกึ่งกลาง ระหว่างสพานพัฒนา กับ สะพานแขวน ครับ

ริมฝั่งลุ่มน้ำวังครับ "สายน้ำแห่งเมืองเซรามิก"
เอาล่ะครับ ลงเรือลุยกันต่อ หย้าหู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ถึงแล้วครับ สพานแขวน สพานแขวนนี้ ในตอนเด็กนะครับ เป็นสพานที่ผมใช้สัญจรผ่านไป ปั่นจักรยานเที่ยวเล่น บ้านเพื่อนผมที่อยู่อีกฝั่ง ของแม่น้ำครับ เพราะเมื่อก่อนบ้านผมอยู่ในโรงเรียนครับ เป็นบ้านพักครู ผมเกิดที่นั่นครับโรงเรียนที่พ่อผมทำงานเป็นอาจารย์ สอนวิชาศิลปะ ชื่อโรงเรียนพงษ์สวัสดิ์ ครับ เป็นโรงเรียนที่ไม่เก็บค่าเล่าเรียนสอนถึงชั้นมัธยม 3 ครับ พูดง่ายๆก็คือโรงเรียนวิทยานุเคาระห์นั่นเอง จะให้เฉพาะคนที่ยากจนจริงๆ เข้าเรียนนะครับ (คนรวยหมดสิทธิครับ) ปัจจุบันโรงเรียนแห่งนี้ได้ปิดไปแล้ว ตอนที่โรงเรียนปิดนั้นผมจำได้ว่าผมกำลังเข้าปวช.1 อยู่มั้งครับ ช่วงนั้นติดเพื่อนมากครับ เลยไม่ค่อยสนใจอะไรครับ คิดอย่างเดียวครับว่าเราต้องย้ายบ้านแล้ว เป็นการย้ายบ้านครั้งแรกในชีวิตผมเลยครับ ตั้งแต่อยู่บ้านพักครูมา 10 กว่าปี คิดถึงแล้ว น่าใจหายเหมือนกันนะครับ เพราะผมต้องแยกจากเพื่อนฝูงที่เคยเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กครับ เพราะในบ้านพักครูจะมีลูกของครูแต่ละคนใช่มั้ยครับ ก็เหมือนกับหมู่บ้านย่อยๆ นั่นเองครับ เด็กที่อยู่บ้านใกล้กัน ก็จะชวนกันไปเล่นซนตามปะสาเด็กใช่มั้ยครับ มันเป็นชีวิตที่มีความสุขมากๆ เลยครับ เป็นเด็กไม่ต้องคิดอะไร ใช้ชีวิตเที่ยวเล่นกับเพื่อนไปวันๆ วันหยุดก็ไม่ต้องไปโรงเรียน นั่งดู ดราก้อนบอล โดเรม่อน อยู่บ้าน พอจบก็ออกไปปั่นจักรยานเล่นกับเพื่อน หิวก็เข้าบ้านมากิน กินเสร็จก็ออกไปอีก นึกแล้วอยากกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้น อีกครั้งจัง นอกเรื่องเลยครับ แต่เรื่องราวของบ้านพักครูที่ผมอยู่มาตั้งแต่เกิดยังมีอีกเยอะเลยครับ ความประทับใจที่ผมเก็บไว้ อย่างอัดอั้น ผมอยากเล่าความรู้สึกต่างๆ ผ่านตัวอักษรให้เพื่อนๆได้รับฟังกัน แต่มันคงไม่หมดแน่เลยครับวันนี้เอาเป็นว่า ผมจะมาเล่าให้ฟังต่อในโอกาสต่อไปละกันครับ (มีเรื่องเขียนอีกแล้ว....ความทรงจำในวัยเด็กนั้นเป็นความทรงจำที่สวยงามนะครับเพื่อนๆว่ามั้ย) มาเล่าต่อถึงสพานแขวนดีกว่า ในสมัยก่อน พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ในสมัยที่พ่อเรียนที่พงษ์สวัสดิ์ (พ่อผมเรียนที่นี่แล้วก็กลับมาเป็นอาจารย์น่ะครับ) พ่อต้องเดินข้ามลำน้ำวัง ที่ผมเล่าให้ฟังมาตั้งแต่ต้น ข้ามมาเรียนทุกวันครับ เพราะในสมัยนั้น สพานยังไม่มีครับ เวลามาเรียนพ่อต้องถอดเสื้อผ้าไว้บนหัวไม่ให้โดนน้ำ แล้วก็เิดินข้ามมาเรียน ไปกลับทุกวันครับ ผมนึกถึงตอนนั้นแล้วสงสารพ่อเหมือนกันครับ การใช้ชีวิตในสมัยก่อนไม่ได้สบายเหมือนสมัยนี้เลย แต่สพานแขวนที่ผมเอารูปมาฝากกันนั้น รถราไม่สามารถผ่านไปได้นะครับ เป็นสพานที่ใช้เดินกับปั่นจักรยานเท่านั้น ตอนที่ผมอยู่บ้านพักครูผมใช้สพานนี้เป็นประจำครับ เพราะตอนเด็กผมชอบเล่นกีฬามากเลยครับ อาจเป็นเพราะอยู่ในโรงเรียนด้วยมั้งครับ สถานที่มันครบครับ ไม่ว่าจะเป็นสนามบอล สนามบาส สนามวอลเล่ย์ ผมเล่นเป็นหมดครับ แต่ที่ชอบจริงๆ จะเป็นฟุตบอลมากกว่า ผมเลยมีเพื่อนจากการเตะบอลเยอะครับ จะตะเวนเล่นไปเรื่อยครับ เพราะแถวนั้นที่เตะบอลเยอะครับ เคยเล่นแบบว่าพนันกันน่ะครับคือ เรามีทีมเราไปแข่งกับอีกหมู่บ้านนึงครับ เราเป็นนักเตะด้วย ใส่เงินเดิมพันด้วย มันส์มากเลยครับ เวลาชนะแล้วได้ตังมาซื้อขนมกินกับเพื่อน แบบว่ามีความสุขสุดๆเลยครับ เอาล่ะครับเรื่องราวในความทรงจำผมยังไม่หมดนะครับ ยังมีเรื่องที่ต้องเล่าอีกเพียบครับ แต่เอาวันละนิดดีกว่าครับ ผมเข้าใจว่าถ้าเราเป็นคนอ่านถ้าเห็นตัวหนังสือยาวๆ แล้วขี้เกียจอ่านกัน จริงมั้ยครับ เอาเป็นว่าวันละนิด ละหน่อยดีกว่า ผมจะได้มีเรื่องเขียนให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันทุกวันไง ผมบอกเพื่อนๆกันไว้ก่อนนะครับ เรื่องที่ผมเล่ามาทั้งหมดเป็นเรื่องจริงครับ เป็นความทรงจำของผมเองต่อสถานที่ๆ ผมเคยอยู่ เคยมีความรู้สึกดี กับที่นั่นนะครับ จุดประสงค์ของผมก็แค่อยากให้ใครก็ได้ ที่ผ่านเข้ามาอ่านเจอบทความของผมแล้วจะทำให้เขา อาจนึกถึงวันวานในอดีตที่ผ่านมา บางคนอาจทำงานหนักเพื่อที่จะสบาย แต่ไม่เคยพักผ่อนกันเลย จนบางทีลืมไปเลยว่า จริงๆแล้วในตอนที่เราเป็นเด็กๆ กันเราไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายเหมือนตอนนี้เลยจริงมั้ยครับ ก็ฝากกันไว้ละกันครับ เผื่อใครที่เหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิตที่วุ่นวายมาทั้งวันแล้ว มาซึมซับ บรรยากาศเมืองเหนือ เมืองลำปางผ่านบทความจากบล็อกผม อาจทำให้จิตใจชุ่มชื้น ขึ้นมาบ้างนะครับ ยังวันนี้ผมต้องไปก่อนนะครับ ต้องล้างจานแล้วครับ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับ อ่อ.....เกือบลืมเพื่อนๆยังไงช่วยคอมเม้น ผมบ้างก็ได้นะครับ จาได้เป็นกำลังใจเขียนบล็อกกันต่อไปครับ แล้วสำหรับใครที่สนใจ เซรามิกลำปาง จาน ชาม กาไก่ก็ติดต่อผมมาได้นะครับ aromsin9@gmail.com ใครอยากได้จาน ชาม เซรามิกแบบไหนก็บอกกันมาได้เลยครับ สำหรับวันนี้โชคดีมีเงินใช้ทุกคนครับ

0 Comments:

Post a Comment