เซรามิกลำปาง,จานเซรามิกลำปาง,กระถางเซรามิกลำปาง,ถ้วยเซรามิกลำปาง,ถ้วยกาไก่เซรามิคลำปาง,จานเซรามิกลำปาง
สวัสดีคับ เพื่อนๆทุกคน ต้องขอโทษเพื่อนๆก่อนนะครับ ที่เมื่อวานไม่ได้เข้ามาเขียนบทความ พอดีช่วงนี้ยุ่งๆหน่อยน่ะครับ ขอโทษคุณ เอ๋เชียงรายด้วยนะครับ เมลมาถามผมว่า"ทำไมไม่มาเขียนบล็อกล่ะ รออ่านตั้งนานแล้ว " ผมเมลไปบอกแล้วนะครับ เอาเป็นว่าช่วงนี้ยุ่งกับการแต่งบล็อกไปหน่อยครับเลยไม่มีเวลาเลย การเขียนมันต้องใช้จินตนาการเยอะครับ ถ้าหัวมันไม่แล่นผมก็ไม่อยากมาเขียนครับ เข้าเรื่องกันเลยครับ ชดเชยที่ไม่ได้มาเขียนนาน (2วันเอง-_-) วันนี้ผมจะพาไปดูสัญลักษณ์ของลำปางที่ดังมากครับ นักท่องเที่ยวที่มาลำปางถ้าไม่ได้มานั่งรถม้าลำปาง เค้าถือว่ามาไม่ถึงลำปางนะครับ (ถึงแม้จะซื้อชามกาไก่ไปอวดก็ไม่ถือว่ามาลำปางแบบเต็มรูปแบบนะ) ไปดูประวัติความเป็นมา และรูปสวยๆกันเลยคร้าบ
ความเป็นมาจ้า
นับเวลาย้อนหลังไปในช่วง 85 ปีที่แล้วหรือปี 2458 สมัยของเจ้าบุญวาทย์มานิตตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ในคราวนั้นการคมนาคมขนส่งทางรพยนต์ยังพัฒนาไม่ถึงนครลำปาง พาหนะชนิดเดียวที่สามารถใช้บรรทุกของหรือ สินค้าที่มีความเร็วในการเดินทางสูงสุด คือ รถม้า รถม้าคันแรกได้ถูกซื้อมาจากกรุงเทพฯ เนื่องจากสมัยก่อนรถม้าจะนิยมใช้อยู่ในกรุงเทพฯ ในหมู่ของเจ้าขุนมูลนาย และใช้เป็นรถประจำตำแหน่งของข้าราชบริพารชั้นผู้ใหญ่ในราชสำนัก ในปี 2458 รถยนต์จากยุโรปได้เข้ามามีอิทธิพลในกรุงเทพฯ บรรดาเจ้าขุนมูลนายต่างก็เปลี่ยนจากรถม้าหันมานิยมใช้รถยนต์กันมาก ประกอบกับขณะนั้นทางกรุงเทพฯ มีรถยนต์ใช้มากขึ้น บทบาทของรถม้ารถลากต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ จึงลดน้อยลง รถม้าที่เคยใช้นี้เอง ได้เริ่มอพยพเข้ามายังนครลำปาง และยังได้กระจายไปสู่เมืองหลังของภาคต่าง ๆ ได้แก่ นครราชสีมาของภาคอีสาน นครศรีธรรมราชของภาคใต้ นครเชียงใหม่ เมืองเชียงราย เมืองแพร่ เมืองน่าน เมืองแม่ฮ่องสอนของภาคเหนือ แต่ด้วยเหตุใดไม่ปรากฏผู้ประกอบการรถม้าในเมืองดังกล่าวจึงเลิกกิจการไป คงเหลือแต่เฉพาะที่จังหวัดลำปางแห่งเดียวที่ยังคงใช้รถม้าอยู่ตราบจนกระทั่ง ทุกวันนี้
กิจการรถม้าได้ดำเนินต่อเนื่องเรื่อยมาตั้งแต่ต้นเป็นระยะเวลาได้ 34 ปี จึงได้มีผู้ก่อตั้งสมาคมล้อเลื่อนจังหวัดลำปางขึ้นในปี พ.ศ. 2492 โดยขุนอุทานคดี ท่านเป็นผู้ริเริ่มและยังดำรงตำแหน่งนายกสมาคมคนแรกที่ได้ร่างกฎระเบียบว่าด้วยสมาคมขึ้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2495 เจ้าบุญส่ง ณ ลำปาง เข้ามาบริหารงานและได้เปลี่ยนชื่อสมาคมเป็นสมาคมรถม้าจังหวัดลำปาง (THE HORSE CARRIAGE IN LAMPAMG PROVINCE) และได้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมคนที่สอง รถม้าลำปางได้เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี พ.ศ. 2501 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้มอบเงินให้แก่เจ้าบุญส่ง ณ ลำปาง และได้ขอรับรถม้าเข้าไว้ในความอุปถัมภ์ให้รัฐบาทช่วยเหลือสมาคมรถม้าและตั้งกองทุนให้สมาคมรถม้าอีก 1 กองทุน
ปัจจุบันรถม้าในจังหวัดลำปางมีประมาณ 70 คัน และวิ่งพานักท่องเที่ยวชมเมืองได้มีจำนวน 50 คัน ซึ่งจะคอยให้บริการสลับสับเปลี่ยนพานักท่องเที่ยวชมเมืองทั้งกลางวันและกลางคืน
การพัฒนาความเจริญทางด้านเทคโนโลยีตะวันตก ส่งผลให้นครลำปางพบกับความเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ ด้านตามลำดับในฐานะของมณฑลพายัพ อันประกอบด้วยนครต่าง ๆ ของภาคเหนือตอนบนความเจริญที่เห็นเด่นชันคือ การเข้ามาของรถไฟสายเหนือที่มีจุดหมายปลายทางของการเดินทางสิ้นสุดที่สถานีรถไฟแห่งนี้เปิดรับขบวนรถโดยสารครั้งแรก เมื่อเถลิงศก วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2459 หรือวันปีใหม่ไทย ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 ใจครั้งนั้นมีรถม้าที่เรียกกันว่ารถม้าแท็กซี่คอยรับผู้โดยสารจากสถานีรถไฟเข้าสู่ตัวเมืองนครลำปาง
เมื่อขบวนรถไฟมาถึงสถานีรถไฟนครลำปาง ณ ตำบลสบตํย อำเภอเมือง อันเป็นจุดเชื่อมต่อกับถนนสามสายแรกในภาคเหนือของประเทศไทย และได้มีการเปลี่ยนแปลงจากพื้นที่นาบริเวณชานเมืองมาเป็นพื้นที่เมืองอย่าง รวดเร็ว เพื่อรองรับความเจริญที่เพิ่มทวีมากขึ้น เมื่อเส้นทางรถไฟพัฒนาด้วยการขุดเจาะอุโมงค์ขุนตาลผ่านภูเข้าและไปถึงนคร เชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2464 นครลำปางเป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า จากกรุงเทพฯ ไปยังภาคเหนือ และลำเลียงสินค้าที่จำเป็นจากภาคเหนือมายังกรุงเทพฯ ส่งผลให้ย่านการค้าสบตํยแห่งนี้มีการพัฒนาความเจริญอย่างมากอาคารโบราณเหล่า นี้ยังคงเหลือเป็นมรดกทางสถาปัตยกรรม ที่คงรายละเอียดของความสวยงามไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ในการชมเมืองนั้น นักท่องเที่ยวสามารถใช้บบริการรถม้าแท็กซี่ที่มีสารถีสวมชุดคาวบอยร่วมสมัย แบบคลาสสิคเดอร์บลุกซ์ยุคหนังเงียบฮอลลี่วู้ดอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลำปาง โดยแท้ และที่พิเศษคือการได้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมวันรำลึกประวัติศาสตร์รถม้า รถไฟนครลำปาง พร้อมกับเฉลิมฉลองศตวรรษใหม่ปี ค.ศ. 2000 ในวันเถลิงที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2543 สืบต่อไป
เป็นยังไงกันบ้างครับ หวังว่าเพื่อนคงได้ความรู้กันนะครับ เผื่อใครถามไปนั่งรถม้ามา รู้ป่าวทำไมลำปางถึงมีรถม้า ถ้าใครถามจาได้ตอบเค้าได้น้า คร้้าบ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้มาตามกันต่อว่าผมจาไปซอดแซกที่ไหน ติดตามกันได้นะครับ ที่นี่ ลำปาง เมืองเซรามิก ชามไก่ขาเดียว ลำปางหนนาวมาก-_- โชคดีมีตังใช้ทุกคนคร้าบ